นายจอร์โจ กัมบา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหัวหน้ากลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า "สินเชื่อสีเขียวมูลค่า 500 ล้านบาทนี้จะช่วยสนับสนุนโครงการรีไซคามิน (Recyclamine) ของบริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกเพื่อพัฒนาใบพัดของกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่สามารถรีไซเคิลได้ ช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในกระบวนการรื้อถอนและนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่"
"ความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างเอชเอสบีซี และกลุ่มอดิตยา เบอร์ล่า ที่มีมายาวนานกว่า 30 ปี ได้ช่วยให้เราสามารถสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของพวกเขาในกว่า 15 ประเทศ อันรวมถึงประเทศไทยได้ ทั้งนี้ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนบริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) ในนวัตกรรม รีไซคามิน (Recyclamine) โดยความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการสนับสนุนทางการเงินเพื่อความยั่งยืนที่สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
"การนำนวัตกรรมมาใช้เป็นสิ่งสำคัญในการหาแนวทางและโซลูชันเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในทุกกระบวนการ (Circular Economy) ทั้งนี้ เอชเอสบีซี เชื่อว่าเราสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระบบเศรษฐกิจจริงได้ ผ่านการสนับสนุนลูกค้าของเราในการพัฒนานวัตกรรมและการกระจายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตผ่านการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ โดยเป้าหมายของเรา คือ การสนับสนุนทางการเงินและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนมูลค่า 750 พันล้านดอลลาร์ ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืน" นายกัมบา กล่าวเสริม
นายปราโมท คานเดลวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "บริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มอดิตยา เบอร์ล่า ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ติดอันดับ "ฟอร์จูน 500" หรือบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่งที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ โดย อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ เป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 1,000 รายการ และจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเราเชื่อว่าเอชเอสบีซีเป็นพันธมิตรที่เหมาะสมในการสนับสนุนโครงการเพื่อความยั่งยืนนี้ของเรา ด้วยขนาดธุรกิจที่ใหญ่ระดับโลกและความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของภาคธุรกิจในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero) อันจะช่วยปลดล็อกโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืนของเราได้"
"รีไซคามีน (Recyclamine) เป็นนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่งช่วยให้สามารถรีไซเคิลวัสดุในระยะสุดท้ายของอายุการใช้งานและช่วยให้กระบวนการผลิตไม่ก่อให้เกิดของเสีย จึงช่วยสนับสนุนให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ โดยเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาตินี้ใช้สารบ่มประเภทอะมีนที่มีการออกแบบโครงสร้างโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถแยกตัวตามจุดที่กำหนดไว้ได้เมื่ออยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ควบคุม และช่วยแปรสภาพอีพ็อกซี่เทอร์โมเซ็ตให้กลายเป็นเทอร์โมพลาสติก ส่งผลให้เกิดการคืนสภาพและนำเส้นใยและวัสดุเมทริกซ์กลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้ เช่น เส้นใยคาร์บอนและพลาสติกเมทริกซ์ เป็นต้น ทำให้ช่วยสร้างมูลค่าใหม่จากของเสียได้ ด้วยเหตุนี้ รีไซคามีนจึงถือเป็นนวัตกรรมต้นแบบของโลกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า และช่วยลดการสูญเสียของทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ความร่วมมือของเรากับเอชเอสบีซีในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันโครงการนี้ให้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อย่างยั่งยืนต่อไป" นายคานเดลวาล กล่าวสรุป